ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด

      ทนายตั้ม มีชื่อจริงว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เป็นทนายหนุ่มจากรั้วมหาวิทยารามคำแหง เริ่มต้นชีวิตอาชีพทนายความในปี พ.ศ.2547 ทนายตั้มมีอุดมการณ์ในการทำงาน อุทิศตนช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่ได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมาย คอยให้คำปรึกษากับประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เวลาว่างก็จะลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อให้ความรู้กฎหมายเบื้องต้น เพื่อไม่ให้ประชาชนถูกเอารัดเอาเปรียบจากพวกหัวหมอ ในโครงการ “ทนายพบประชาชน” และยังไปให้ความรู้กับนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ ในโครงการ “พี่สอนน้อง”  เรียกได้ว่า เป็นทนายที่ทั้งหล่อ ใจดี มีคุณธรรม จริงๆ ปัจจุบันเป็นเลขาธิการมูลนิธิทีมงาน “ทนายประชาชน”

      จนกระทั่งในปี 2561 ได้เกิดคดี หวย30ล้าน ปริศนา ระหว่าง หมวดจรูญ และ ครูปรีชา ที่เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจประจำปีที่ประชาชนทั้งประเทศให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีนายตำรวจชั้นสูงเข้ามาเกี่ยวข้องและให้ความเห็นทางคดีที่ผิดปกติ จนกระทั่งเกิดคดีพลิกไปมาสร้างความสับสนให้กับผู้ติดตาม จนกระทั่งท้ายสุดแล้วทางฝั่ง หมวดจรูญ ที่มีทนายตั้มเป็นที่ปรึกษาทางกฎหมาย เป็นฝ่ายที่ศาลชี้ว่าเป็นผู้มีสิทธิในสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลที่ 1 ดังกล่าว ทำให้ทนายตั้มเป็นที่รู้จักของประชาชนจำนวนมาก

ทนายตั้ม สู้คดี สามี ภรรยา ถูกยัดยาเสพติด

      ก่อนหน้านี้มีอีกคดีหนึ่งที่น่าสนใจ ในปี พ.ศ. 2559 ได้มีสองสามีภรรยาชาวสมุทรสงคราม ได้ติดต่อเข้ามาหาทนายตั้มเนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในข้อหา “มียาเสพติดประเภท 1 ยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” พร้อมของกลางยาบ้า 40 เม็ดและ 20 เม็ด คนละคดี ซึ่งสองสามีภรรยานั้นยากจนและยืนยันว่ายาบ้าดังกล่าวนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ที่นำมามอบให้แก่ตน เพียงฟังคำซัดทอดจากผู้ต้องหาที่ถูกจับก่อนหน้า และยังมีพิรุธกล้องวงจรปิดในปั๊มที่เกิดเหตุถูกลบโดยไม่มีสาเหตุ แถมบันทึกจับกุมยังขัดแย้งกับคำร้องฝากขับ โดยบันทึกแจ้งว่ามีสายลับแจ้งมา แต่ในคำร้องฝากขังระบุว่าตำรวจขับรถผ่านมาเจอ 

     หลังจากนั้นมีการนัดเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทนายตั้มถอนฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 แต่ทนายตั้มได้เก็บหลักฐานขณะเจรจารายละเอียดในคดีดังกล่าวเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบในการสู้คดี และยังพิสูจน์ได้ว่าคำซัดทอดของผู้ต้องหาคนก่อนหน้านั้นเป็นเพียงคำให้การที่เป็นการเบิกความเท็จเพื่อต้องการลดโทษ สุดท้ายศาลตัดสินยกฟ้องสามี แต่ตัดสินจำคุกภรรยาเป็นเวลา 4 ปี ส่วนคดีความผิดเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ท.ก็ได้รับไว้พิจารณาเรียบร้อย ทำให้วงการสีกากีสั่นสะเทือนไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง